บทความ 8 เมษายน 2025 พิชญ์สินี รอดโพธิ์ทอง รู้ทันปัญหา "ตู้น้ำไฟดูด" พร้อมวิธีแก้ไขอย่างปลอดภัย ตู้น้ำไฟดูด ปัญหาร้ายแรงที่ไม่ควรมองข้าม ในชีวิตประจำวัน ตู้น้ำถือเป็นอุปกรณ์ ที่สำคัญและสะดวกสบาย ที่สถานที่สาธารณะหลายแห่งเลือกใช้ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล วัด หรือสำนักงาน เพื่อเป็นตัวช่วยในการอำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากร สร้างความสะดวกสบายในการดื่มน้ำ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า “ตู้น้ำไฟดูด” อาจเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง หรือการบำรุงรักษาที่ขาดความใส่ใจ ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดูดที่อันตรายได้ ดังนั้น เราจึงควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันการเกิดไฟดูดในตู้น้ำ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานตู้น้ำ ตู้น้ำไฟดูด เกิดจากอะไร? ตู้น้ำไฟดูดเป็นอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งมาจากการเลือกวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง หรือการบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ ทุกปัจจัยเหล่านี้ล้วนสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือการไหลของกระแสไฟฟ้าออกมาในรูปแบบที่อันตรายได้ ดังนั้นการเข้าใจสาเหตุของตู้น้ำไฟดูดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ 1. วัสดุไม่ได้คุณภาพ วัสดุที่ใช้ในการผลิตตู้น้ำบางประเภท อาจไม่ได้มาตรฐานหรือคุณภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน ในสภาวะที่ต้องการความปลอดภัยจากไฟฟ้า หากวัสดุที่ใช้ไม่ทนทานต่อไฟฟ้าหรืออุณหภูมิที่สูง อาจเกิดการชำรุดหรือเสียหายได้ เช่น สายไฟที่ใช้ไม่ตรงตามมาตรฐาน หรือฉนวนกันไฟฟ้าที่มีคุณภาพต่ำ จะส่งผลให้เกิดการลัดวงจรไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้กระแสไฟฟ้าออกมาและทำให้เกิดอันตรายได้ 2. การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง การติดตั้งตู้น้ำที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดปัญหาไฟดูดได้ในภายหลัง เช่น การต่อสายไฟที่ผิดวิธี การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการใช้เครื่องมือที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกรณีที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดทางไฟฟ้า หรือการทำงานที่ขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ไฟฟ้าอาจไหลออกจากระบบได้ง่าย 3. การบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ ตู้น้ำไฟดูดสามารถเกิดขึ้นจากการบำรุงรักษาที่ไม่สม่ำเสมอ เมื่ออุปกรณ์หรือระบบไฟฟ้าภายในตู้ไม่ถูกตรวจสอบ หรือซ่อมแซมตามระยะเวลาที่กำหนด การเสื่อมสภาพของวัสดุอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น ฉนวนหุ้มสายไฟที่ชำรุด หรือการหลวมของขั้วต่อไฟฟ้า ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการลัดวงจรและการไหลของกระแสไฟฟ้าที่อันตรายได้ 4. สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ตู้น้ำที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟดูดได้ เช่น การตั้งตู้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือในที่ที่มีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกมาก อาจทำให้การทำงานของระบบไฟฟ้าภายในไม่ปลอดภัย หรือเกิดการลัดวงจรที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าไหลออกมาและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ 5. การใช้งานที่ผิดวิธี การใช้งานตู้น้ำที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเสียบปลั๊กหรือเปิด-ปิดอุปกรณ์ที่ไม่ถูกวิธี อาจส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าในระยะยาว หรือเกิดการเชื่อมต่อที่ไม่แน่นหนา จนเกิดปัญหาการลัดวงจรไฟฟ้าได้ วิธีแก้ปัญหาเมื่อพบผู้ถูกไฟดูด 1. ตัดแหล่งไฟฟ้าให้เร็วที่สุด หากเป็นไปได้ ให้ปิดสวิตช์ไฟฟ้าของตู้น้ำหรือถอดปลั๊กออกจากแหล่งจ่ายไฟทันที หากไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ควรหาทางใช้วัสดุที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น ไม้ พลาสติก หรือวัสดุที่แห้งมาช่วยตัดกระแสไฟฟ้าออกจากผู้ที่โดนไฟฟ้าดูด โดยการผลักหรือดึงออก 2. โทรขอความช่วยเหลือ โทรหาหน่วยงานฉุกเฉิน (เช่น 1669 หรือเบอร์ฉุกเฉินในพื้นที่ของคุณ) เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์และที่ตั้งของคุณ 3. ประเมินอาการของผู้ที่โดนไฟฟ้าดูด หากผู้ที่โดนไฟฟ้าดูดหมดสติหรือหายใจไม่ปกติ ให้เริ่มทำการช่วยเหลือทางการแพทย์เบื้องต้น เช่น การทำ CPR (การกดหน้าอก) ทันที ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะทำ CPR ได้หรือไม่ ให้รอฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางโทรศัพท์หากผู้ที่โดนไฟฟ้าดูดยังมีสติและหายใจได้ปกติ ควรให้นั่งหรือนอนในท่าที่สบาย และคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจนกว่าการช่วยเหลือจะมาถึง 4. เฝ้าดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ให้ความช่วยเหลือจนกว่าผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์จะมาถึง และห้ามปล่อยให้ผู้ที่โดนไฟฟ้าดูดอยู่เพียงลำพัง เพราะอาจประสบปัญหาหัวใจหยุดเต้นหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ 5.นำส่งโรงพยาบาล หากผู้ที่โดนไฟฟ้าดูดฟื้นตัวขึ้น ควรพาไปตรวจร่างกายกับแพทย์ แม้จะดูเหมือนไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ ก็ตาม เพราะไฟฟ้าสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ในระยะยาว หากผู้ที่โดนไฟฟ้าดูดฟื้นตัวขึ้น ควรพาไปตรวจร่างกายกับแพทย์ แม้จะดูเหมือนไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ ก็ตาม เพราะไฟฟ้าสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ในระยะยาว การป้องกันการเกิดไฟดูดในตู้น้ำ เพื่อป้องกันการเกิดตู้น้ำไฟดูด ควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานสากล ควรติดตั้งระบบไฟฟ้าโดยผู้เชี่ยวชาญ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องและปลอดภัย ควรมีการบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ และใช้งานตู้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย พร้อมทั้งหมั่นดูแลรักษาและทำความสะอาดเพื่อให้ตู้น้ำสามารถใช้งานได้อย่าเต็มประสิทธิภาพ และตรวจเช็กได้อย่างง่ายดาย