ตู้น้ำเล็กกับตู้น้ำใหญ่ ต่างกันอย่างไร
ตู้น้ำขนาดเล็ก VS ตู้น้ำขนาดใหญ่
ตู้น้ำเล็กกับตู้น้ำใหญ่ เป็นสิ่งที่เมื่อพูดถึง “ตู้น้ำดื่ม” ในสถานศึกษา หน่วยงานราชการ หรือโรงงานอุตสาหกรรม หลายคนอาจลังเลว่าจะเลือก ตู้น้ำขนาดเล็ก หรือ ตู้น้ำขนาดใหญ่ดี บทความนี้จะพาไปเจาะลึกความแตกต่าง และเหตุผลว่าทำไมตู้น้ำขนาดใหญ่ถึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะ ตู้น้ำดื่มขนาดใหญ่แบรนด์ Ingreen
ความแตกต่าง
1. ความจุและรองรับผู้ใช้งาน
-ตู้น้ำขนาดเล็ก เหมาะสำหรับครัวเรือนหรือสำนักงานขนาดเล็ก รองรับผู้ใช้ไม่เกิน 10-15 คน/วัน
-ตู้น้ำขนาดใหญ่ Ingreen ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานต่อเนื่องในสถานที่ที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เช่น โรงเรียน โรงงาน หน่วยงานราชการ มีจุดจ่ายน้ำหลายจุด ใช้งานสะดวก ไม่ต้องต่อแถวรอนาน
2. ความทนทาน และวัสดุที่ใช้ผลิต
-ตู้น้ำขนาดเล็กมักผลิตจากพลาสติกบาง หรือวัสดุมาตรฐานทั่วไป
-ตู้น้ำ Ingreen ใช้วัสดุ พลาสติก ABS เกรดพรีเมียม แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ไม่เปราะง่าย ทนแดด ทนน้ำฝน เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทย
3. ความปลอดภัยในการใช้งาน
-ตู้น้ำเล็กบางรุ่นอาจมีปัญหาเรื่องไฟรั่ว หรือระบบกราวด์ไม่สมบูรณ์
-ตู้น้ำ Ingreen มาพร้อมระบบไฟฟ้าที่ผ่านการออกแบบอย่างปลอดภัย มีระบบป้องกันไฟดูด ปลอดภัยสำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนทุกคน
4. สุขอนามัยและมาตรฐานความสะอาด
-ขนาดเล็กหมายถึงต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย และอาจมีการสะสมของเชื้อโรคหากดูแลไม่ดี
-ตู้น้ำขนาดใหญ่ Ingreen มีระบบกรองน้ำหลายชั้น ถอดล้างทำความสะอาดง่าย ออกแบบให้ป้องกันสิ่งสกปรกจากภายนอกได้ดี
5. ความคุ้มค่าระยะยาว
แม้ราคาตู้น้ำขนาดใหญ่จะสูงกว่าตู้น้ำเล็ก แต่เมื่อเทียบกับความทนทาน อายุการใช้งาน และความปลอดภัยแล้ว Ingreen คือการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ประหยัดงบประมาณในระยะยาว
แล้วจะเลือกอย่างไร?
การเลือกขนาดตู้น้ำให้เหมาะสมกับสถานที่ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และไม่เกิดปัญหาเรื่องความจุน้ำหรือความทนทาน
ตู้น้ำขนาดใหญ่: เหมาะกับสถานที่ โรงเรียน โรงงาน สำนักงานราชการ หน่วยงานรัฐ อาคารเรียน ศูนย์ฝึกอบรม มหาวิทยาลัย
ตู้น้ำขนาดเล็ก: คอนโด อพาร์ตเมนต์ บริษัทขนาดเล็ก ร้านค้า คลินิก
ติดตามและรับข่าวสารได้ที่
ติดตามและรับข่าวสารดี ๆ ได้ที่ : IngreenWaterDispenser